หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยว9 ที่เที่ยววอชิงตัน ดีซี (Washington, D.C.) และกิจกรรมน่าสนใจไม่ควรพลาด

9 ที่เที่ยววอชิงตัน ดีซี (Washington, D.C.) และกิจกรรมน่าสนใจไม่ควรพลาด

-

ต่อไปบทความของผมจะหาพบได้ยากขึ้นจาก search engine ถ้าเป็นไปได้โปรดเพิ่มเพื่อนทาง Line เพื่อเข้าถึงบทความหรือแพลนทริปฟรี ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกคุณในการเดินทางครั้งต่อไปครับ ขอบคุณครับ
เพิ่มเพื่อน

วอชิงตัน ดีซี (Washington D.C.) เป็นเมืองหลวงของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยตั้งอยู่ทางด้านชายฝั่งตะวันออกของประเทศหรือ East Coast ตัวเมืองไม่ได้อยู่ในสังกัดรัฐใดเหมือนกับเมืองอื่นๆ แต่ว่าจะอยู่ในเขตปกครองพิเศษของตนเอง หรือที่เรียกว่า District of Columbia ครับ

ตัวผมเองได้มีโอกาสไปเยือนวอชิงตัน ดีซีมาแล้วตอนเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา โดยส่วนตัวผมมองว่าถ้าคุณได้มีโอกาสไปเยือน East Coast เมืองนี้ก็จัดว่าไม่ควรพลาดในการไปเยือน เพราะว่านี่คือศูนย์กลางของอำนาจในมหาประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาอย่างแท้จริง ผมเองยังรู้สึกได้ว่ามีความแตกต่างกับเมืองอื่นๆ อย่างชัดเจนครับ

รู้จักเมืองวอชิงตัน ดีซี (Washington D.C.)

สภาพภูมิศาสตร์ของเมืองเป็นพื้นที่ราบที่อยู่ริมแม่น้ำ Potomac ทำให้สะดวกต่อการขยับขยายตัวเมือง และภูมิอากาศเองก็ไม่หนาวเย็นเกินไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีทุกสิ่งสำหรับเมืองหลวงที่ใช้พื้นที่จำนวนมาก

แต่เดิมก่อนการประกาศอิสรภาพอเมริกานั้น วอชิงตัน ดีซีไม่ได้มีสถานะเป็นเมืองใหญ่เหมือนกับบอสตัน หรือว่าฟิลาเดลเฟีย ในทางตรงกันข้าม พื้นที่แถบนี้มีแค่ชนเผ่าอเมริกันพื้นเมือง หรือชาวยุโรปแต่เพียงเล็กน้อยที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ สองแห่ง นั่นคือเมืองจอร์จทาวน์ (Georgetown) และอเล็กซานเดรีย (Alexandria)

เมืองวอชิงตัน ดีซี

ในปี ค.ศ.1790 ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน ผู้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศได้เลือกพื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่สร้างเมืองหลวงใหม่ ซึ่งได้รับบริจาคมาจากรัฐแมรี่แลนด์และเวอร์จิเนีย (แต่ในปี ค.ศ.1850 รัฐบาลกลางได้คืนพื้นที่ให้เวอร์จิเนียกลับไปจนหมด) การสร้างสถานที่ราชการต่างๆ จึงได้เริ่มต้นขึ้นโดยมีแรงงานทาสเป็นกำลังสำคัญ

การสร้างเมืองหลวงใช้เวลาร่วมสิบปี และเสร็จสิ้นส่วนหนึ่งในปี ค.ศ.1800 รัฐบาลสหรัฐจึงได้ประกาศให้พื้นที่แถบนี้มีนามว่า District of Columbia และเปลี่ยนพื้นที่ตรงนี้อยู่ในการปกครองของรัฐบาลกลางโดยตรง เมืองวอชิงตัน ดีซีจึงได้ถือกำเนิดนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ที่เที่ยว Washington DC

อย่างไรก็ดีในปี ค.ศ.1812 อาคารส่วนมากที่สร้างขึ้นในช่วงก่อนหน้าล้วนแต่ถูกทำลายโดยกองทัพอังกฤษ ซึ่งรวมไปถึงทำเนียบประธานาธิบดีด้วย ทำให้แทบทุกสิ่งต้องสร้างกันใหม่จากตอนนั้นครับ การสร้างในช่วงนี้จะได้รับอิทธิพลจากชัดเจนมาจากสถาปัตยกรรมกรีก-โรมันครับ

ช่วงสงครามกลางเมืองได้มีทาสที่ได้รับอิสรภาพมากมายย้ายมาอยู่ที่นี่ ดังนั้นตัวเมืองจึงขยายใหญ่ขึ้นไปด้วย จนกระทั่งในช่วงปี ค.ศ.1870 วอชิงตัน ดีซีได้มีประชากรมากกว่า 100,000 คนเลยครับ

Library of Congress

อย่างไรก็ดีการเติบโตที่เร็วเกินไปนี้ได้สร้างปัญหาอย่างมาก เพราะโครงสร้างพื้นฐานของเมืองไม่พร้อมสำหรับการรองรับประชากรจำนวนนี้ ทำให้คุณภาพชีวิตของชาวเมืองตกต่ำลง (ปัญหาหลักคือเรื่องความสะอาด)

ด้วยเหตุนี้ในช่วงปี ค.ศ.1890-1900 วอชิงตัน ดีซีจึงเป็นเมืองแรกที่รัฐบาลเริ่มดำเนินโครงการ City Beautiful Movement ที่ปรับปรุงภูมิทัศน์ อาคารสวยๆ ในสไตล์ Beaux-Arts และ Neoclassical ได้ถูกสร้างขึ้น เช่นเดียวกับการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของเมืองอย่างขนานใหญ่ ปัจจุบันในเมืองจึงหลงเหลืออาคารที่สวยงามหลายแห่ง ซึ่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวครับ

ปัจจุบันวอชิงตัน ดีซียังคงเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลางสหรัฐ และแน่นอนว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกอีกด้วยครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปวอชิงตัน ดีซีทำอย่างไร?

คุณสามารถเดินทางบินจากประเทศไทยไปลงที่เมืองวอชิงตัน ดีซีได้ด้วยการเปลี่ยนเครื่องเพียงครั้งเดียว ทั้งนี้ตัวเลือกอันดับแรกของผมคือ Qatar Airways เพราะเวลายอดเยี่ยม (บินถึงเช้า) แต่สายการบินอื่นอย่างเช่น Emirates ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกันครับ

ในกรณีที่คุณอยู่ที่เมืองอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา คุณอาจจะพิจารณาบินในประเทศ หรือว่าถ้าอยู่ห่างไปไม่ไกลนักนั่งรถบัสหรือรถไฟครับ สำหรับตั๋วรถบัสสามารถจองและเปรียบเทียบได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Busbud หรือ Omio ครับ

การสัญจรในวอชิงตัน ดีซีทำอย่างไร?

วอชิงตัน ดีซีมีระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมทุกส่วนของตัวเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟใต้ดิน (metro) ที่จะเป็นพาหนะหลักในการไปไหนมาไหนของคุณครับ

ความปลอดภัยในวอชิงตัน ดีซีเป็นอย่างไร?

อ้างอิงจาก US News เมืองวอชิงตัน ดีซีมีปัญหาอาชญากรรมมากกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ อย่างไรก็ดีถ้าคุณไม่ได้ออกนอกสถานที่ท่องเที่ยวไปไกลนัก ตัวเมืองถือว่ามีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ตัวผมเองก็ไม่เคยเจออะไรตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่นี่ ทั้งนี้คุณสามารถปรับใช้คำแนะนำเรื่องความปลอดภัยของผมที่นิวยอร์กมาปรับใช้กับเมืองนี้ได้เ่ช่นกันครับ

สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากคือตามสถานที่ราชการต่างๆ คุณควรปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และห้ามฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเด็ดขาดครับ

1. United States Capitol

United States Capitol เป็นอาคารรัฐสภาอันเป็นสถานที่ตั้งของสภาล่าง (House of Representatives) และสภาสูง (Senate) ซึ่งกุมอำนาจนิติบัญญัติของประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวอาคารตั้งอยู่บน Capitol Hill มีสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ และมีโดมขนาดใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรมครับ

United States Capitol

ด้านในอาคารได้รับการตบแต่งอย่างสวยงามด้วยภาพเขียนสีที่เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์อเมริกัน เช่นเดียวกับเฟรสโกที่สวยงาม ทั้งนี้คุณสามารถเข้าชมด้านในได้ด้วยการจองทัวร์กับทางอาคารรัฐสภาโดยตรง หรืออาจจะเสี่ยงไป Walk-in ดูก็ได้ เพราะทัวร์จะออกทุก 10 นาทีอยู่แล้ว โดยจะเริ่มตั้งแต่ 8 โมงครึ่งไปจนถึง 15.20 น. และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ครับ

บริเวณ Capitol Hill ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกสองแห่ง นั่นคือ Library of Congress ห้องสมุดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และสร้างขึ้นตามแบบโรงโอเปร่าในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ด้านในเก็บรักษาหนึ่งในต้นฉบับคำประกาศอิสรภาพอเมริกาที่เขียนโดยโทมัส เจฟเฟอร์สัน และ Gutenberg Bible หนึ่งในสามเล่มที่หลงเหลือบนโลก

Library of Congress

ส่วนอีกแห่งคือ Folger Shakespeare Library ห้องสมุดที่เก็บรักษาผลงานของเชคสเปียร์ที่ได้รับการตีพิมพ์ไว้มากที่สุดในโลกครับ ใครที่ชอบผลงานของเขาก็สามารถไปชมได้ครับ

2. The White House

The White House หรือทำเนียบขาวเป็นสถานที่ซึ่งทุกคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว ที่นี่เป็นสถานที่พำนักของประธานาธิบดีคนปัจจุบันของประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจฝ่ายบริหารในการปกครองประเทศ โดยตัวทำเนียบสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่สหรัฐอเมริกาได้รับอิสรภาพ แต่ถูกเผาทำลายในช่วงสงครามปี ค.ศ.1812 ก่อนที่จะได้รับการสร้างใหม่ในเวลาต่อมา

The White House

นักท่องเที่ยวส่วนมากจะได้ถ่ายรูปกับบริเวณด้านหน้าของทำเนียบขาวเท่านั้น แต่ถ้าคุณจองทัวร์ล่วงหน้ากับทางทำเนียบขาว (ผ่านทางลิงค์นี้) คุณสามารถเข้าไปเที่ยวชมด้านในได้เช่นกัน ทว่าการจองนั้นยากถึงยากมาก โดยคุณอาจจะต้องใช้สถานทูตไทยเป็นผู้จองคิวให้ (แนะนำมาโดยทางทำเนียบขาว) และทัวร์ก็เปิดในจำนวนที่จำกัดมากในแต่ละวันครับ

อย่างไรก็ดีคุณสามารถไปเยี่ยมชม The White House Visitor Center ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุและข้าวของเครื่องใช้ของประธานาธิบดีคนก่อนๆ ได้ เช่นเดียวกับเรียนรู้ประวัติและความเป็นมาของทำเนียบขาวอย่างละเอียดด้วยครับ

ใกล้กับทำเนียบขาวคือ Lafayette Square จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งชื่อตามนายทหารฝรั่งเศสนามว่า Lafayette ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยเหลือให้กองทัพของอาณานิคมทั้ง 13 มีชัยเหนือกองทัพอังกฤษในสงครามประกาศอิสรภาพ ในบริเวณจัตุรัสจะมีอนุสาวรีย์ของเขาตั้งอยู่ ซึ่งถ้ามองย้อนไปจะเห็นตัวทำเนียบขาวด้วยครับ

Lafayette Square

3. Lincoln Memorial

Lincoln Memorial เป็นสถานที่ซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์ให้กับประธานาธิบดีอัมราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการทำให้สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศหนึ่งเดียว และล้มเลิกระบอบทาสในประเทศครับ

Lincoln Memorial

หลังจากนั้นที่นี่ยังคงปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์อีกหลายครั้ง อย่างเช่นตอนที่มาร์ติน ลูเธอร์ คิงกล่าวสุนทรพจน์ “I Have a Dream” อันโด่งดัง เขาก็ได้กล่าวมันจากด้านหน้าของสถานที่แห่งนี้ครับ

ตัวอนุสรณ์เห็นได้ชัดว่าได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมัน ด้านในจะมีรูปปั้นหินอ่อนของประธานาธิบดีลินคอล์นในท่านั่งประดิษฐานอยู่ โดยตัวรูปปั้นจะล้อมรอบด้วยเสากรีกทั้งหมด 36 เสา ซึ่งเป็นจำนวนของรัฐที่สหรัฐอเมริกามีอยู่ในสมัยที่ลินคอล์นดำรงตำแหน่งครับ

Lincoln Memorial

อนุสรณ์ลินคอล์นจะสวยงามไม่น้อยในช่วงกลางคืน เพราะจะมีการเปิดไฟส่องสว่าง ซึ่งอนุสรณ์แห่งนี้จะเปิดให้ชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุดครับ

4. National Mall

National Mall เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ (มาก) ที่ตั้งอยู่ระหว่าง Capitol Hill และ Lincoln Memorial โดยตัวสวนได้ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่สำหรับเหล่าวีรชนของสหรัฐอเมริกาที่เสียเลือดเสียเนื้อในการสร้างประเทศแห่งนี้ขึ้นมาครับ

บริเวณตรงกลางของสวนสาธารณะเป็นที่ตั้งของ Washington Monument อนุสรณ์ที่มีลักษณะเป็นเสาโอเบลิสค์สีขาวสูง 555 ฟุตซึ่งเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงจอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ ตัวอนุสรณ์จะล้อมรอบด้วยธงชาติสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 50 ผืน ซึ่งแสดงถึงรัฐทั้งหมดนั่นเองครับ

Washington Memorial

ทั้งนี้คุณสามารถขึ้นลิฟต์ไปยังบนยอดของเสานี้ได้ด้วย ซึ่งจะเห็นเมืองวอชิงตัน ดีซีได้แบบพาโนรามาเลยครับ แต่จุดที่เห็นอนุสรณ์แห่งนี้สวยที่สุดคือจาก Lincoln Memorial เพราะตัวเสาจะสะท้อนลงในสระน้ำครับ

นอกจากนี้ใน Memorial Hall จะมีอนุสรณ์ที่อุทิศให้กับทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในสงครามครั้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม (แต่ไม่ทุกสงคราม อย่างสงครามโลกครั้งที่ 1 จะตั้งอยู่ที่อื่น) โดยคุณสามารถไปเดินชมได้ครับ

WW2 Memorial

ในบริเวณสวนสาธารณะแห่งนี้ได้ปลูกต้นซากุระเป็นแนวไว้จำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน ซึ่งต้นเหล่านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้มอบให้เป็นของขวัญ ดังนั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จึงเป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในแผ่นดินสหรัฐอเมริกาเลยครับ

Cherry Tree Walk

จุดที่ดีที่สุดคือ Cherry Tree Walk ซึ่งอยู่ใกล้กับ Jefferson Memorial อนุสรณ์แบบกรีกโรมัน (ได้แรงบันดาลใจจาก Roman Pantheon) ที่อุทิศให้กับประธานาธิบดีคนที่ 3 อย่างโทมัส เจฟเฟอร์สัน และสระน้ำขนาดใหญ่ชื่อ Tidal Basin ครับ

5. Smithsonian Institution

ถ้าคุณชื่นชอบการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ คุณไม่ควรพลาดการไปเยือน Smithsonian Institution เพราะนี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่นเดียวกับศูนย์รวมการศึกษาและการวิจัยอันดับ 1 ของโลกในปัจจุบันครับ

ด้านในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์จะมีพิพิธภัณฑ์แยกย่อยไปได้ถึง 17 แห่งด้วยกัน แต่ว่าไม่คิดค่าเข้าชมเลยสักดอลลาร์เดียว เพราะฉะนั้นคุณสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่เท่าไรก็ได้ตามที่จะต้องการครับ สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปนั้น ผมแนะนำ 1 วันเต็ม แต่ถ้าคุณชอบเดินพิพิธภัณฑ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมแนะนำเป็น 2-3 วันครับ

Smithsonian Institution

พิพิธภัณฑ์แห่งที่ผมมองว่าไม่ควรพลาดได้แก่

National Air and Space Museum – พิพิธภัณฑ์การบินและอวกาศที่เป็นอันดับ 1 ของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ด้านในมีให้ชมทั้งเครื่องบินต้นแบบของสองพี่น้องตระกูลไรท์ หินที่โครงการอพอลโลได้มาจากดวงจันทร์ หรือแม้กระทั่งโมดูลของอพอลโล 11 ที่นักบินอวกาศใช้ควบคุมส่วนต่างๆ ของจรวดครับ

นอกจากนี้จะมี Flight Simulator ให้ลองเล่นอีกด้วย (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม) เช่นเดียวกับสื่อการเรียนรู้แบบ interactive อีกจำนวนมาก เรียกได้ว่าใครที่ชอบการบินและอวกาศจะต้องชอบครับ

National Museum of Natural History – พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่มีฟอสซิลจำนวนมากให้ได้ชม โดยเฉพาะพระเอกของรายการอย่างทีเร็กซ์ที่เป็นของจริง และสมบูรณ์มาก เพราะมีให้ชมแบบทั้งตัวเลยครับ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือเพชรโฮป (Hope) ที่มีตำนานเล่าว่าเป็นเพชรต้องสาป ซึ่งถ้าใครครอบครองก็จะมีอันเป็นไป หรือว่าได้รับโชคร้ายครับ

National Museum of Natural History ที่เที่ยว Washington DC

National Gallery of Art – พิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นนำของสหรัฐอเมริกา โดยมีผลงานทั้งจากศิลปินยุโรปและอเมริกัน งานที่โดดเด่นน่าจะเป็น Ginevra de Benci ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเดียวของดาวินชีที่จัดแสดงอย่างถาวรในแผ่นดินสหรัฐอเมริกาครับ

National Museum of Asian Art – พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมโบราณวัตถุที่ได้จากมาจากทวีปเอเชีย ซึ่งรวมไปถึงพระพุทธรูปที่สวยงามจำนวนไม่น้อยครับ

National Museum of American History – พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อเมริกันที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุดในประเทศ โดยนำเสนอความรู้ในทุกแง่มุมของประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่สมัยประกาศอิสรภาพมาจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับโบราณวัตถุที่แสดงถึงวิถีชีวิตและวิทยาการต่างๆ อาทิเช่นหลอดไฟของเอดิสันเป็นต้น

National Zoo – สถานที่ท่องเที่ยวของสถาบันสมิธโซเนียนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในหมู่อเมริกันชน โดยที่นี่คือสวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีสัตว์ให้ชมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหมีแพนด้าแดง เสือชีตาห์ ฯลฯ และยังมีกิจกรรมอื่นๆทั้งการแสดงโชว์ ข้อดีอย่างที่สุดของสวนสัตว์นี้คือค่าเข้าฟรี ซึ่งต่างจากสวนสัตว์ชั้นนำอื่นๆ ของโลกที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเข้าชมจำนวนมากครับ

National Zoo ที่เที่ยววอชิงตัน ดีซีน่าไปเยือน

Smithsonian Castle – อาคารสีแดงอิฐที่เป็นอาคารแห่งแรกในสถาบันสมิธโซเนียน และเป็นแลนด์มาร์กของสถาบันอีกด้วย น่าเสียดายที่ตัวปราสาทปิดซ่อมตั้งแต่ปี ค.ศ.2023 โดยจะเสร็จสิ้นในช่วงปี ค.ศ.2028 ครับ

Smithsonian Castle

6. National Archives

National Archives หรือหอจดหมายเหตุเป็นสถานที่เก็บรักษาเอกสารของรัฐบาลสหรัฐที่ได้รับการปลดระวาง (declassified) ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นที่นี่เป็นสถานที่สำหรับให้นักวิจัยศึกษาและค้นคว้าอย่างละเอียด แต่สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปนั้น คุณสามารถเข้าชมร่างประกาศอิสรภาพอเมริกัน รัฐธรรมนูญสหรัฐ ฯลฯ

National Archives

ตัวหอจดหมายเหตุนั้นสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแนวกรีก-โรมันเช่นเคย ด้านหน้าของหอจะมีสระน้ำขนาดใหญ่พร้อมน้ำพุตั้งอยู่ ชาวเมืองมักจะมานั่งเล่นกันที่นี่ครับ

7. Washington National Cathedral

Washington National Cathedral เป็นมหาวิหารใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยสไตล์ Neo-Gothic แบบอังกฤษ โดยการสร้างนั้นใช้เวลานานถึง 83 ปีด้วยกันจนกระทั่งเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1990 ครับ

Washington National Cathedral

หลังจากสร้างเสร็จ ที่นี่ก็ได้ใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นพิธีศพของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอย่างไอเซนฮาว์ เรแกน และฟอร์ด เช่นเดียวกับสถานที่ฝังร่างของประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสันครับ ปัจจุบันที่นี่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ หรืออาจจะจองทัวร์พิเศษเข้าไปชมก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ใกล้กับมหาวิหารยังมีสวนชื่อ Bishop’s Garden สวนอันร่มรื่นที่ปลูกพืชที่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิล เช่นเดียวกับพืชที่ได้รับความนิยมในสมัยยุคกลาง บางช่วงของสัปดาห์ที่นี่จะมีเทศกาลดนตรีให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้ฟังฟรีอีกด้วย

8. หาอะไรทานและช้อปปิ้ง

ในกรุงวอชิงตัน ดีซีมีย่านที่น่าสนใจในการหาอะไรทานและช้อปปิ้งอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น

Dupont Circle – ย่านที่อุดมไปด้วยสถานทูตจากนานาชาติ ทำให้มีร้านค้าและร้านอาหารมากไปโดยปริยาย ตอนที่ผมไปเที่ยวที่นี่ ส่วนมากแล้วผมก็หาอะไรรับประทานแถวย่านนี้ครับ

Georgetown District – ย่านโบราณที่มีความเก่าแก่มากกว่ากรุงวอชิงตัน ดีซีเสียอีก ที่นี่มีมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง Georgetown University ที่โด่งดังเรื่องสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และอาคารบ้านเรือนอายุร่วม 200 ปีที่เปลี่ยนเป็นร้านอาหารและคาเฟ่เพื่อรองรับลูกค้าครับ

The Wharf – ย่านริมแม่น้ำ Potomac ที่อุดมไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารกว่า 80 แห่ง ที่นี่เป็นจุด hangout ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของชาวเมืองครับ นอกจากนี้ยังมีตลาดปลาแบบ open-air ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ทำให้เป็นสถานที่สำหรับไปทานซีฟู้ดสดๆ ที่น่าไปลองด้วยครับ

9. สถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจ

Arlington National Cemetery – สุสานของรัฐบาลที่ใช้ฝังร่างของทหารสหรัฐกว่า 400,000 นายที่สละชีพในสงครามครั้งต่างๆ โดยตัวสุสานนั้นสร้างขึ้นในช่วงสงครามกลางเมือง และอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำ Potomac กับกรุงวอชิงตัน ดีซีครับ

International Spy Museum – พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสายลับที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสายลับอย่างละเอียด ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ไปจนถึงอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้เพื่อดักฟังและขโมยความลับ สำหรับใครที่ชื่นชอบในภาพยนตร์แนว James Bond คุณไม่ควรพลาดทุกประการเลยครับ

References

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

Most Popular

error: Content is protected !!