รปปงหงิ (Roppongi) เป็นย่านที่อยู่บริเวณตรงกลางของกรุงโตเกียว ตัวย่านนั้นมีชื่อเสียงอยู่สองสิ่งด้วยกัน สิ่งแรกก็คือเป็นย่านหรูหราดาวล้านดวงของเมือง ซึ่งประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารระดับ high-end ที่ดึงดูดนักเดินทางกระเป๋าหนักให้มาละลายเงินเยนกันที่นี่ สิ่งที่สองก็คือเป็นย่านการเที่ยวกลางคืนที่ได้รับความนิยมสูงมาก และเหมาะกับใครที่หลงรักการ hangout ครับ
ในบทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับรปปงหงิคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่และกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักรปปงหงิ (Roppongi)
คำว่ารปปงหงินั้นแปลตรงตัวว่า ต้นไม้ทั้งหก ซึ่งในอดีตนั้นย่านนี้จะมีต้น zelkova ขนาดใหญ่อยู่หกต้นที่เป็นสัญลักษณ์ของย่านตั้งแต่สมัยเอโดะ สามต้นนั้นถูกตัดออกเมื่อกาลเวลาผ่านไป ส่วนสามต้นที่เหลือตายไปในช่วงที่โตเกียวโดนทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองครับ
บ้างก็ว่ารปปงหงิมาจากไดเมียว 6 คนที่เคยมีบ้านพักอยู่แถวนี้ ซึ่งไดเมียวทุกคนมีตัวคันจิที่แปลว่าต้นไม้อยู่ในชื่อ อย่างไรก็ดีผมว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะสมัยเอโดะนั้นย่านนี้เป็นย่านเสื่อมโทรมที่ใช้ประกอบกิจกรรมผิดกฎหมาย การที่ไดเมียวชื่อคล้ายกันถึง 6 คนจะมาอยู่ในย่านนี้เหมือนกันฟังดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ใช้ที่นี่เป็นสถานที่ตั้งค่ายทหารองครักษ์ สิ่งที่ตามมาก็คือมีกิจการเที่ยวกลางคืนอย่างเช่นผับและบาร์เพื่อให้พวกทหารได้ผ่อนคลาย และเป็นจุดเริ่มต้นของย่านนี้ในฐานะสถานที่เที่ยวหลังตะวันตกดินครับ ซึ่งหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสงบ กองทัพสหรัฐก็ได้เข้ามาประจำที่นี่ ทำให้ย่านกลางคืนของรปปงหงิเจริญรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้นไปอีก
ด้วยความที่บริเวณนี้มีชาวต่างชาติมากมาย สถานทูตต่างๆ ก็มาเปิดทำการที่นี่ด้วย รปปงหงิจึงกลายเป็นย่านชาวต่างชาติในโตเกียวเลยก็ว่าได้ครับ
ในช่วงปี 2000 ได้มีการริเริ่มพัฒนาโครงการ Roppongi Hills ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับ high-end ที่ประกอบด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ไปจนถึงอพาร์ตเมนต์ โรงภาพยนตร์ และพิพิธภัณฑ์ หลังจากโครงการนี้เสร็จสิ้น รปปงหงิได้กลายเป็นย่านระดับ high-end ของเมืองไปอย่างสมบูรณ์ครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปย่านรปปงหงิทำอย่างไร?
รปปงหงิอาจจะไม่ใช่ศูนย์กลางการคมนาคมอย่างเช่นอุเอโนะ แต่ก็ด้วยความที่อยู่ตรงกลางเมือง ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนทำได้อย่างสะดวกสบายด้วยการใช้รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hibiya Line หรือว่า Toei Subway สาย Oedo Line ครับ
ที่พัก
สำหรับใครที่อยากพักที่ย่านรปปงหงิและยังไม่ได้จองที่พัก ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักรปปงหงิน่าจองของผมเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
1. Tokyo City View
Tokyo City View เป็นจุดชมวิวกรุงโตเกียวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงกว่า 250-270 เมตร คุณจะได้เห็นกรุงโตเกียวแบบสุดลูกหูลูกตา เพราะว่าตัวจุดชมวิวนั้นมีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง ช่วยให้คุณเห็นทั้ง Tokyo Tower และ Tokyo Skytree ได้อย่างชัดเจนครับ
ในช่วงกลางคืนนั้นบริเวณจุดชมวิวกลางแจ้ง (Sky Deck) จะมีการเปิดไฟ ซึ่งจะรับกับแสงสีเสียงของกรุงโตเกียวยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดีเลยครับ
ค่าบริการนั้นอยู่ที่ 1,800 เยนสำหรับจุดชมวิวในร่ม และอีก 500 เยนสำหรับ Sky Deck ครับ
2. Roppongi Art Triangle
Roppongi Art Triangle เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสามแห่งที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งคุณสามารถเดินไปชมได้ไม่ยากนัก โดยทั้งสามพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วย
- National Art Center Tokyo – พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ไม่มีผลงานจัดแสดงแบบถาวร นั่นแปลว่าผลงานศิลปะที่จัดแสดงนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดทุกช่วงครับ โดยจะมีงานจากทั่วโลกมาจัดแสดงไม่มีข้อจำกัดว่าเป็นยุคไหนและชาติอะไร
- Mori Art Museum – ตั้งอยู่ชั้น 52-53 ของ Mori Tower พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่มีผลงานจัดแสดงแบบถาวรเช่นกัน แต่จะเน้นที่ผลงานศิลปะแบบร่วมสมัยครับ
- Suntory Museum of Art – พิพิธภัณฑ์ที่มีคอนเซปต์ “Art in Life” หรือพูดง่ายๆ คือศิลปะที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันครับ เพราะฉะนั้นคุณจะได้เห็นผลงานศิลปะผ่านข้าวของเครื่องใช้รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ครับ
3. ศาลเจ้าโนกิ
ศาลเจ้าโนกิ (Nogi Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่อุทิศให้กับแม่ทัพโนกิ มาเระสุเกะและภรรนาซึ่งตัดสินใจปลิดชีพตนเองตามจักรพรรดิเมจิที่สวรรคตไปในปี ค.ศ.1912 เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีอันสูงสุดครับ
ด้านในศาลเจ้ามีต้นไม้อันร่มรื่น (รวมไปถึงซากุระ) ทำให้บรรยากาศเงียบสงบมากราวกับว่าไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นครับ ใกล้กับตัวศาลเจ้ามีบ้านพักของแม่ทัพผู้นี้ตั้งอยู่ แต่จะเปิดให้เข้าชมได้แค่ 1-2 วันต่อปีเท่านั้นครับ
4. ชมซากุระ
ด้านในโครงการ Roppongi Hills นั้นมีจุดชมซากุระที่สวยงามหลายแห่งอย่างเช่น
สวนโมริ (Mohri Garden) เป็นสวนเก่าแก่ที่เคยเป็นสมบัติของไดเมียวตระกูลโมริในสมัยเอโดะ ในปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นสวนญี่ปุ่นที่สวยงาม และมีสระน้ำอยู่ภายใน และเป็นจุดชมซากุระที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของย่านรปปงหงิด้วยครับ
Roppongi Sakurazaka – ถนนที่มีต้นซากุระเรียงรายไปตามสองข้างทางกว่า 75 ต้นทำให้คุณชมความสวยงามของซากุระได้โดยที่ไม่ต้องไปแย่งจุดถ่ายรูปที่สวนอุเอโนะครับ
5. ชมไฟที่ถนนเคยากิซากะ
ถนนเคยากิซากะ (Keyakizaka Street) เป็นถนนสายหลักของย่านรปปงหงิ โดยสองข้างทางของถนนนั้นมีต้นไม้เรียงรายกันไปอย่างสวยงาม แต่ความพิเศษจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม เพราะต้นไม้เหล่านี้จะได้รับการติดหลอดไฟ LED รวมแล้วกว่า 1.2 ล้านดวง ซึ่งจะเปลี่ยนตัวถนนให้งดงามสุดจะพรรณนาในช่วงกลางคืน
บรรยากาศบริเวณนี้นั้นจะโรแมนติกมาก เหมาะสำหรับคู๋รักที่อยากหาสถานที่สวยๆ ในการสร้างความทรงจำร่วมกันครับ
6. กิน ช้อป และเที่ยว
รปปงหงินั้นมีร้านอาหารระดับ High-end จำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ Sukiyabashi Jiro (ร้านของบุตรชายของ Jiro Ono ตำนานเทพเจ้าแห่งซูชิที่มีสาขาอยู่ที่กินซ่า) ไปจนถึงร้านอาหารต่างชาติ อย่างเช่นร้านอาหารฝรั่งเศสอย่าง Jean Georges และ The Moon เป็นต้น เรียกได้ว่าถ้าคุณต้องการความสุดยอดทางด้านอาหาร รปปงหงิมอบให้คุณได้อย่างแน่นอนครับ
สำหรับสายช้อปปิ้งนั้น รปปงหงิมี shop ของสินค้าแบรนด์เนมจำนวนมาก ซึ่งให้คุณได้ซื้อสินค้าชั้นดีของดีไซเนอร์จากทั่วโลกครับ ท้ายที่สุดเมื่อตะวันตกดินแล้ว สิ่งที่คุณไม่ควรพลาดก็คือท่องไปตามสถานที่เที่ยวช่วงกลางคืนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาทุกยุคทุกสมัยของรปปงหงิครับ
 ในกรุงโตเกียว ย่านนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความครับ){kind=link}