หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยว19 ที่เที่ยวและกิจกรรมในเวียนนา (Vienna) ที่คุณไม่ควรพลาด

19 ที่เที่ยวและกิจกรรมในเวียนนา (Vienna) ที่คุณไม่ควรพลาด

-

เวียนนา (Vienna) เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ตัวเมืองเคยเป็นอดีตศูนย์กลางของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นที่นี่จึงเต็มไปด้วยพระราชวัง มหาวิหาร พิพิธภัณฑ์ โรงละคร และอื่นๆ อีกมากมายเลยครับ

ทั้งนี้เวียนนาสามารถเที่ยวได้ในทุกฤดู แต่ช่วงที่ยอดนิยมมีอยู่สองช่วงด้วยกันได้แก่

ช่วงกลางฤดูร้อนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง (กรกฎาคมถึงกันยายน) เพราะว่ามีเวลากลางวันที่ยาวนาน และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอันหลากหลายอีกด้วย

St.Stephen Cathedral ในช่วงฤดูหนาว หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเวียนนาที่สวยที่สุด
St.Stephen Cathedral ในช่วงฤดูหนาว

ช่วงฤดูหนาว (ธันวาคมก่อนปีใหม่) เพราะช่วงนี้เวียนนาจะได้กับการประดับประดาอย่างสวยงาม และมีหิมะโปรยปราย ทำให้งดงามราวกับว่าเป็นเมืองในฝันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเทศกาลอย่างเช่นตลาดคริสต์มาสและคอนเสิร์ตต่างๆ อีกด้วย

สารบัญ: ที่เที่ยวเวียนนามีที่ไหนบ้าง? show

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปเที่ยวเวียนนาทำอย่างไร?

สำหรับการเดินทางมายังเวียนนานั้นไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะสายการบิน Austrian Airlines, Eva Air หรือแม้กระทั่ง สายการบินต่างมีบริการบินตรงสู่เวียนนา ทำให้ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 10-11 ชั่วโมงเท่านั้น

อย่างไรก็ดีถ้าคุณไม่ซีเรียสเรื่องเวลามากนัก การใช้บริการสายการบินตะวันออกกลางอย่างเช่น Qatar Airways หรือ Emirates ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะว่าจะถูกกว่าบินตรงประมาณ 20% (5,000-6,000 บาทสำหรับตั๋วไปกลับ) แลกกับการเสียเวลา 5 ชั่วโมงเศษครับ รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ที่บทความเลือกสายการบินไปออสเตรียครับ

ในกรณีที่คุณเดินทางจากเมืองอื่นๆ ของออสเตรียอย่างเช่นซาลซ์บูร์ก, อินส์บรุค หรือ กราซ ผมแนะนำให้ใช้ Omio เพื่อจองตั๋วและเปรียบเทียบราคาของรถไฟหรือรถบัสไปยังเวียนนาครับ

การซื้อ Pass

คุณสามารถซื้อ Vienna Explorer Card หรือ Vienna Pass เพื่อใช้ลดราคาหรือฟรีค่าเข้าชมได้ โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ 1-6 วัน และใช้กับสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในเมืองได้แทบทุกแห่ง โดยมากแล้วถ้าคุณเดินทางไปเวียนนาครั้งแรก บัตรเหล่านี้ถือวาคุ้มค่าครับ

อย่างไรก็ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ผมแนะนำให้คิดดีๆ ก่อน เพราะการซื้อบัตรเหล่านี้จะคุ้มก็ต่อเมื่อ คุณได้เข้าชมสถานที่ต่างๆ ที่รวมอยู่ในบัตรแทบทั้งหมด ดังนั้นถ้าคุณจะใช้เวลาส่วนใหญ่กับสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง หรือมองว่าที่อื่นไม่น่าสนใจ ผมไม่แนะนำให้ซื้อบัตรครับ

Tip

สำหรับโรงแรมและที่พักในเวียนนาดีๆ ผมได้แจกแจงไว้ในบทความแยกแล้ว อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความที่พักในเวียนนาของผมครับ แต่ถ้าสนใจที่พักใกล้กับสนามบิน โปรดอ่านบทความแยกนี้แทนครับ

1. ชมความยิ่งใหญ่ของ The Hofburg (พระราชวังฮอฟบวร์ก)

The Hofburg หรือพระราชวังฮอฟบวร์กเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิแห่งออสเตรียใช้ว่าราชการนับตั้งแต่ยุคอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Empire)

The Hofburg ในยามค่ำคืน by TTStudio, standard license, depositphotos

ในปัจจุบันนั้นพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง แต่ที่สำคัญที่สุดแน่นอนว่าคือ Imperial Apartments หรือ ส่วนพระราชวังเดิมที่เป็นที่พำนักอาศัยของจักรพรรดิออสเตรียมาทุกยุคทุกสมัย ก่อนที่ราชวงศ์จะถูกล้มเลิกไปในช่วงปี ค.ศ.1918

คุณจะได้เห็นห้องหับต่างๆ ที่ได้รับการตบแต่งอย่างหรูหราในสไตล์ Rococo นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์และสิ่งของต่างๆ ในพระราชวังก็ยังเป็นของเดิม คุณจะได้สัมผัสว่าราชวงศ์ออสเตรียดำรงชีวิตอย่างไรครับ

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจมากคือ Sisi Museum ตัวพิพิธภัณฑ์จะบอกเล่าถึงชีวิตของจักรพรรดินีเอลิซาเบธหรือ Sisi ผู้ที่คลั่งไคล้ในการประทินโฉมตัวเองให้สวยและดูเด็กที่สุด

คุณจะได้เห็นตั้งแต่เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสุดอลังการ อัญมณี และข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ของพระนาง ซึ่งจะรวมไปถึง Death Mask และเสื้อผ้าที่ถูกสวมให้พระนางหลังจากที่ถูกลอบปลงพระชนม์อีกด้วย

ใกล้กับ Sisi Museum มีพิพิธภัณฑ์ที่เรียกว่า Imperial Silver Collection ที่เก็บรักษาของมีค่าจำนวนมากของราชวงศ์ โดยส่วนมากแล้วจะเป็นเครื่องปั้นดินเผา เครื่องเงิน เครื่องคริสตัลที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ประดับประดาโต๊ะอาหารของจักรพรรดิครับ

ทั้งสามพิพิธภัณฑ์สามารถเข้าชมได้โดยใช้ตั๋วใบเดียว โดยราคาจะอยู่ที่ 16 ยูโรครับ

2. สำรวจโบราณวัตถุที่ Imperial Treasury Vienna

ถ้าคุณเดินทางมาเวียนนา ที่เที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดคือ ท้องพระคลังแห่งนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ The Hofburg ครับ

ความน่าสนใจของที่นี่อยู่ที่โบราณวัตถุและของมีค่ามากมายที่เป็นระดับสุดยอดของออสเตรียและยุโรปเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นมหามงกุฎที่เคยประดับลงบนพระเศียรของเหล่าจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, มรกต (Emerald) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก ไปจนถึงฟันของตัวนาร์วาลขนาดยักษ์ที่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อกันว่าเป็นเขาของยูนิคอร์นครับ

Cr: By Bede735c – Own work, CC BY-SA 3.0

ดังนั้นถ้าคุณชอบประวัติศาสตร์แล้ว ผมบอกได้เลยว่าคุณไม่ควรพลาดที่นี่เลยครับ ค่าเข้าชมที่นี่จะอยู่ที่ 12 ยูโรครับ

3. ส่องงานศิลป์และโบราณวัตถุที่พิพิธภัณฑ์ระดับท็อป

ในอาณาบริเวณของ The Hofburg นั้นมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะอีกหลายแห่งที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น

  • Kunsthistorisches Museum Wien (18 ยูโร) – พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก็บรักษาคอลเล็คชั่นงานศิลปะที่จักรพรรดิแห่งออสเตรียเคยเก็บสะสมเอาไว้ ตั้งแต่ภาพ Madonna in the Meadow ของราฟาเอลที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ ไปจนถึงงานของจิตรกรอย่าง Rembrandt, Titian และ Tintoretto ครับ
  • The Albertina (17.9 ยูโร) – พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั้นรวบรวมงานศิลป์ยุคโมเดิร์นไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานของ Monet, Degas ฯลฯ นอกจากนี้ตัวพิพิธภัณฑ์ยังครอบคลุม State Rooms อันสวยงาม ซึ่งเป็นห้องที่จักรพรรดินี Maria Theresa เคยพำนักอยู่ด้วยครับ
  • Ephesus Museum (8 ยูโร) – พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุอายุเกือบสองพันปีที่มีที่มาจากดินแดน Ephesus (ส่วนหนึ่งของตุรเกียในปัจจุบัน)
  • Naturhistorisches Museum Vienna (14 ยูโร) – พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุทางธรรมชาติไว้มากถึง 20 ล้านชิ้น ตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาสมัยยุคหินไปจนถึงฟอสซิลไดโนเสาร์แบบทั้งตัว ไปจนถึงอุกกาบาตครับ
The Albertina By Bwag – Own work, CC BY-SA 4.0

นอกจากนี้ในตัวพระราชวังยังมีพิพิธภัณฑ์อื่นๆ อยู่อีกหลายแห่งให้ได้ชม ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วจะใช้เวลาเป็นวันทีเดียว ถ้าคุณมีเวลาจำกัด คุณไม่จำเป็นต้องชมทั้งหมดก็ได้ครับ ผมมองว่าเลือกชมแห่งที่มองว่าน่าสนใจก็เพียงพอแล้วครับ

4. ชมความงามของหอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Library)

ในอดีตที่นี่เคยเป็นห้องสมุดของราชวงศ์ที่สร้างขึ้นโดยพระประสงค์ของจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 โดยตบแต่งในสถาปัตยกรรมบารอค (Baroque) อย่างสวยงามอลังการ เรียกได้ว่าเป็นห้องสมุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ครับ

หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย
by cousin_avi/ShutterStock

ไฮไลท์ของห้องสมุดจะอยู่ที่ตัว State Hall ที่ยาว 80 เมตร สูงถึง 20 เมตรและมีโดมอยู่ด้านบน ตัวโดมถูกตบแต่งด้วยภาพเขียนสีเฟรสโกที่งดงามมากครับ อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน (ปลายเดือนสิงหาคม 2022) ห้องสมุดถูกปิดซ่อม และจะเปิดให้เข้าชมในปี 2023 ครับ

5. ชมโชว์ม้าที่ Spanish Riding School

ภายใน The Hofburg นั้นมีโรงเรียนสอนขี่ม้าแบบ haute école ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมของยุโรปหลงเหลืออยู่ ซึ่งที่นี่คุณจะได้ชมเหล่า Lipizzaners บังคับม้าสีขาวอันงามสง่าของพวกเขาอย่างชำนิชำนาญ ภายใต้บรรยากาศแบบดั้งเดิมของช่วงศตวรรษที่ 18 ครับ

โชว์นี้จะมีในช่วง 11 โมงของวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้นครับ ใครที่ชอบม้าสีขาวนั้นบอกได้เลยว่าห้ามพลาด

6. สัมผัสบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ที่ St. Stephen Cathedral

ทุกเมืองหลวงของยุโรปนั้นต้องมีมหาวิหารเอกอันเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในเมือง กรุงเวียนนา (Vienna) ก็เช่้นกันครับ ซึ่งนั่นก็คือ St. Stephen Cathedral หรือมหาวิหารเซนต์สตีเฟนนั่นเอง

มหาวิหารแห่งนี้เป็นทรง Gothic ซึ่งมีความเป็นมาย้อนไปถึงยุคศตวรรษที่ 12 เลยทีเดียว ภายใต้ตบแต่งอย่างอลังการด้วยอัญมณี ของมีค่า และปูชนียวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาคริสต์

St.Stephen Cathedral สถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเวียนนา
By Bwag – Own work, CC BY-SA 4.0,

นอกจากนี้ที่นี่ยังเก็บรักษาร่างของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ออสเตรียและยุโรปไว้อีกด้วย อย่างเช่นเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย (Prince Eugene of Savoy) แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ผู้ป้องกันยุโรปให้พ้นจากมือของจักรวรรดิออตโตมันครับ

อีกหนึ่งจุดเด่นของมหาวิหารนี้คือมีหอคอย 4 แห่ง ซึ่งหอคอยทางใต้จะสูงที่สุด และคุณสามารถเดินขึ้นบันได 343 ขั้นขึ้นไปชมได้ ด้านบนนั้นคุณจะเห็นความงามของเมืองแบบพาโนรามาที่คุณจะประทับใจอย่างไม่รู้ลืมเลยครับ

ตัวมหาวิหารนั้นเข้าฟรี แต่ถ้าจะขึ้นหอคอยจะต้องเสียค่าเข้า 16 ยูโรครับ

7. อลโฉมมหาวิหาร Karlskirche

มหาวิหาร Karlskirche หรือ St. Charles Chrurch นั้นเป็นมหาวิหารทรงบารอค ซึ่งจะต่างจากมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่นที่เป็นทรง Gothic ทั้งนี้มหาวิหารแห่งนี้ถือว่าเป็นมหาวิหารทรงนี้ที่มีความสวยงามมากที่สุดในเวียนนาเลยก็ว่าได้

มหาวิหาร Karlskirche ที่เที่ยวอันดับต้นๆ ในเวียนนา
by Razvan Ionut Dragomirescu/Shutterstock

ด้านในจะถูกประดับประดาอย่างยิ่งใหญ่ตามสไตล์บารอค โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพเขียนสีเฟรสโกที่ตบแต่งตัวโดมของมหาวิหาร นอกจากนี้บริเวณแท่นบูชาก็มีการตบแต่งด้วยภาพเขียนนามว่า “Apotheosis of Saint Charles Borromeo” ซึ่งสวยงามมากครับ

ดังนั้นใครที่ชอบในสถาปัตยกรรมบารอค หรือชอบชมความงดงามของสถานที่ทางศาสนาเหมือนกับผม คุณควรมาชมที่นี่เป็นอย่างยิ่งเลยครับ อย่างไรก็ดีค่าเข้าที่นี่นั้นไม่ฟรี ค่าเข้าอยู่ที่ 8 ยูโรต่อคนครับ

สำหรับใครที่สนใจชมคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิค คุณสามารถชมคอนเสิร์ต 4 ฤดูอันเป็นผลงานของ Vivaldi ได้ที่มหาวิหารแห่งนี้ โดยบัตรนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1,300 บาทกับช่วงเวลาที่แสดงประมาณ 75 นาที โดยส่วนตัวผมชอบงานของเขามากเพราะว่าฟังง่าย รู้สึกผ่อนคลาย และโรแมนติก คุณสามารถจองบัตรได้ผ่านลิงค์ด้านล่างครับ

8. ชมการแสดงดนตรีและโอเปร่า

เวียนนาเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทั้งด้านการแสดงดนตรีมาหลายร้อยปี ย้อนไปถึงยุคที่โมสาร์ทยังมีชีวิตอยู่เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าคุณชอบเสียงดนตรี การมาเที่ยวเวียนนานั้นจะขาดการไปชมการแสดงเหล่านี้ไม่ได้เลยครับ

Vienna State Opera สถานที่ชมโอเปร่าที่ดีที่สุดในเวียนนา

การแสดงที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้

  • โอเปร่าและบัลเลต์ – โรงโอเปร่าแห่งกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) มีจัดแสดงโอเปร่าและบัลเล่ต์มากถึง 50 เรื่องด้วยกัน ซึ่งคุณสามารถเลือกเรื่องที่อยากรับชมได้ การแสดงทั้งหมดจะจัดในโรงโอเปร่าดั้งเดิมที่มีความยิ่งใหญ่และสวยงามครับ
  • ดนตรีคลาสสิค – ถ้าใครชอบดนตรีคลาสสิคอย่างเช่น Symphony no 40 ของโมสาร์ทแล้ว คุณสามารถไปชมการแสดงได้ที่ Musikverein ซึ่งตบแต่งอย่างสวยงามและใช้เป็นสถานที่แสดงมามากกว่า 200 ปีแล้วครับ
  • ละครเพลง– หรือหนึ่งการแสดงที่กำลังมาแรงและน่าสนใจมาก คุณสามารถเลือกเรื่องที่รับชมได้อย่างมากมาย โดยการแสดงจะจัดที่สถานที่ต่างกันไปอย่างเช่น Vienna Volksoper หรือ Raimund Theater ผมแนะนำให้เช็คกับเว็บไซต์นี้เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ

9. เรียนการเต้นรำแบบ Waltz

เวียนนานั้นเป็นเมืองหลวงของศิลปกรรม ดังนั้นถ้าคุณอยากที่จะเต้นรำอย่างชำนิชำนาญ คุณสามารถลงคอร์สแบบรวบรัดจบได้ในคลาสเดียวโดยที่ไม่ต้องจองได้ที่ Rueff Dance School ครับ

ส่วนค่าเรียนก็อยู่ที่ 50 ยูโรต่อคู่ ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย หลังเรียนจบเท่ากับว่ามาเที่ยวออสเตรียครั้งนี้ คุณจะได้ทักษะใหม่กลับบ้านไปด้วยครับ

10. ชมความอลังการที่พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace)

พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) เป็นพระราชวังฤดูร้อนที่เหล่าจักรพรรดิออสเตรียและเชื้อพระวงศ์ใช้เป็นสถานที่พำนัก ตัวพระราชวังถูกสร้างในสไตล์บารอค ส่วนด้านในที่มีห้องทั้งหมด 1,441 ห้องนั้นจะเป็นสไตล์ Rococo ดังนั้นจะมีความยิ่งใหญ่ อลังการและสวยงามมากไม่แพ้พระราชวังอื่นๆ ในยุโรปเลยครับ

พระราชวังเซินบรุนน์ ไฮไลท์ที่เที่ยวเวียนนา
by canadastock/ShutterStock

นอกจากความสวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย เพราะจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 1 แห่งออสเตรียลงนามล้มเลิกระบอบกษัตริย์ที่นี่ เช่นเดียวกับนโปเลียนที่เคยจัดการประชุมที่นี่เช่นกันหลังจากที่มีชัยเหนือออสเตรียครับ

สวนของพระราชวัง (Palace Park) นั้นยังสวยงามไม่แพ้กัน ด้านในสวนแบบบารอคแห่งนี้มีทั้งน้ำพุ รูปปั้น อนุสาวรีย์ ฯลฯ ใครที่หลงใหลในสวนสวยๆ คุณควรจะมาเยี่ยมชมที่นี่สักครั้งหนึ่งครับ

ค่าเข้าชมพระราชวังเชินบรุนน์จะอยู่ที่ 29 ยูโรสำหรับ Grand Tour (เตรียมปรับขึ้นเป็น 32 ยูโรในเดือนเมษายน 2024) อย่างไรก็ดีถ้าคุณไปซื้อตั๋วที่หน้าวังนั้นคนจะเยอะมากครับ

วิธีหลบหลีกมี 2 วิธี วิธีแรกคือซื้อตั๋วแบบล่วงหน้าไปก่อนกับทางพระราชวังที่เว็บนี้ ทั้งนี้คุณอาจจะต้องรอคิวตอนเข้าบ้างอยู่ดี แต่น้อยกว่ายังไม่ได้ซื้อมาเลยพอสมควร และที่สำคัญควร print ตั๋ว e-ticket ไปด้วยเพื่อกันเหนียวครับ และถ้าเป็นไปได้ควรเข้าชมตอนประมาณ 3 โมงเย็น และพึงหลีกเลี่ยงช่วงสิบโมงถึงเที่ยงครับ

ส่วนวิธีที่สองคือซื้อทัวร์ออนไลน์แบบ Skip-the-Line กับเว็บ GetYourGuide ไปเลยครับ การไปกับทัวร์นั้นนอกจากจะได้เข้าโดยที่ไม่ต้องต่อคิวแล้ว และยังมีไกด์ที่มี license ถูกต้องตามกฎหมายมาอธิบายด้วยครับ

ถ้าเทียบกับการซื้อตั๋วเองทางออนไลน์แน่นอนว่าวิธีนี้จะแพงกว่า แต่ประหยัดเวลา (และลดความน่าเบื่อน่ารำคาญในเรื่องการจัดการ)ไปได้มาก รวมไปถึงได้อรรถรสในการชมมากขึ้นจากการบรรยายของไกด์ โดยรวมแล้วผมมองว่าคุ้มค่าครับ

Tip

สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์แบบ exclusive คุณสามารถเลือกพักในพระราชวังเชินบรุนน์ได้ รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ในบทความนี้ครับ

11. ชมสัตว์ที่ Schönbrunn Zoo

ใกล้กับพระราชวังเชินบรุนน์นั้นมีสวนสัตว์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งได้รับการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1752 ทำให้ที่นี่เป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

แม้ว่าจะมีประวัติความเป็นมายาวนาน แต่ที่ Schönbrunn Zoo นั้นสัตว์ต่างๆ จะอยู่อาศัยแบบที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสวนสัตว์แบบสมัยใหม่อันดับต้นๆ ของยุโรปและโลกครับ

Schönbrunn Zoo
by Trabantos/Shutterstock

สัตว์ที่มีให้ชมนั้นมีมากกว่า 700 ชนิดด้วยกัน มีตั้งแต่ลิงอุรังอุตัง ยีราฟ เสือ โคอาล่า จนไปถึงหมาป่าหิมะและสิงโตทะเลครับ

ค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 24 ยูโร แต่คุณสามารถประหยัดค่าเข้าได้ถ้าซื้อตั๋วเหมารวมคู่กับตัวพระราชวังครับ (Classic Plus)

12. เที่ยวชมความงามของ Belvedere Palace

Belvedere Palace เป็นพระราชวังสไตล์บารอคขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา และเป็นอีกที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ตัวพระราชวังนั้นสร้างขึ้นโดยเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยผู้เนรมิตที่นี่ให้เป็นที่พำนักในช่วงฤดูร้อนครับ

ในปัจจุบันด้านในพระราชวังก็ยังงดงามอยู่ แต่จุดเด่นของที่นี่นั้นอยู่ที่การจัดแสดงงานศิลปะระดับโลกของประเทศออสเตรีย โดยเฉพาะงาน 24 ชิ้นอย่าง Gustav Klimt อย่างเช่น “The Kiss” เป็นต้น รวมทั้งหมดแล้วมีงานศิลป์ที่สวยงามถึง 420 ชิ้นให้คุณได้ชมอย่างจุใจครับ

Belvedere Palace ที่เที่ยวเวียนนาระดับท้อป

หลังจากชมเสร็จสิ้นแล้ว คุณสามารถเดินลงไปชมสวนสไตล์บารอคของที่นี่ได้เช่นกัน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของสวนสไตล์บารอคเลยก็ว่าได้ ไฮไลท์นั้นจะอยู่ที่บริเวณหน้าพระราชวังที่คุณสามารถมองเห็นตัววังสะท้อนจากผืนน้ำในสระขนาดใหญ่ครับ

13. เยี่ยมชมถนน Ringstrasee

Ringstrasee หรือ Vienna Ring Road เป็นถนนความยาว 5.3 กิโลเมตรล้อมรอบย่าน Innere Stadt ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกรุงเวียนนา

หลังจากที่ได้มีการรื้อถอนกำแพงเมืองออกไปในช่วงศตวรรษที่ 19 สิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็ได้ถูกปลูกสร้างขึ้นอย่างมากมายในสถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการหรือว่าที่พักอาศัยของชนชั้นสูง ทำให้ตัวถนนสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยครับ

ถนน Ringstrasee By Gugerell – Own work, CC0,

สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจได้แก่

  • อาคารรัฐสภา (Parliament) – ที่ตั้งของรัฐสภาของประเทศออสเตรีย ตัวอาคารเป็นศิลปะแบบกรีกและมีน้ำพุที่ชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Pallas Athene Fountain ครับ
  • ศาลาว่าการกรุงเวียนนา (City Hall) – สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบ Gothic และมีจัตุรัสอยู่ด้านหน้า ซึ่งชาวเมืองมักจะใช้จัดงานอีเวนต์ต่างๆ
  • ตลาดหลักทรัพย์ – สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19
  • Ringstrasee Palaces – พระราชวังย่อยหลายแห่งที่เป็นของชนชั้นสูงชาวออสเตรียในอดีต

คุณสามารถชมถนนแห่งนี้ได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่ขี่จักรยาน นั่งรถราง (tram) นั่งรถม้า หรือว่าเดินครับ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบการเดินที่สุด เพราะจะได้ชมบรรยากาศแบบเต็มอิ่ม แต่รองเท้าต้องพร้อมนะครับ เพราะระยะทางตลอดถนนนั้นถือว่าไกลทีเดียว

14. นั่งรถม้าชมเมือง

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของการมาเที่ยวเวียนนาของนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็คือการนั่งรถม้าชมเมืองครับ ซึ่งเวียนนามีชื่อเสียงในเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1860 เลยทีเดียว

การหารถม้านั้นไม่ยากเลย เพราะใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ จะมีรถม้าที่มาคอยรับนักท่องเที่ยวอยู่ตลอด สนนราคาก็จะต่างกันไปแล้วแต่ว่าคุณต้องการทัวร์ยาวขนาดไหน

ยกตัวอย่างเช่นทัวร์ระยะสั้นจะยาวประมาณ 20 นาที และพาคุณไล่ชมไฮไลท์กลางเมืองเก่าทั้งหมด ราคาจะอยู่ที่ 55 ยูโรต่อรถม้าหนึ่งคัน ส่วนทัวร์ขนาดยาวที่จะพาคุณชมถนน Ringstrasee และวนรอบเมืองเก่าจะอยู่ที่ 95 ยูโรครับ

แต่ถ้าคุณอยากได้ประสบการณ์สุดวิเศษกว่านั้น คุณสามารถจองดินเนอร์บนหลังม้าได้เช่นกัน ซึ่งจะให้บรรยากาศย้อนเวลาราวกับว่าคุณเป็นชนชั้นสูงยุโรปในสมัยโบราณครับ

15. ล่องแม่น้ำดานูบ

แม่น้ำดานูบนั้นเป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงกรุงเวียนนา ตัวเมืองเองก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยแม่น้ำแห่งนี้อีกด้วยครับ ดังนั้นวิธีการชมเมืองเวียนนาที่ดีที่สุดย่อมเป็นการล่องแม่น้ำดานูบนั่นเอง

ตลอดเส้นทางคุณจะได้เห็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามและวิถีชีวิตของชาวเมือง ซึ่งจะให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ครับ

ค่าบริการจะเริ่มต้นที่ประมาณ 30 ยูโร แต่ถ้ามีราคาสูงขึ้น ถ้าคุณต้องการรับประทานอาหารบนเรือด้วยครับ

16. ชมวิวกรุงเวียนนามุมสูงที่ Danube Tower

สำหรับใครที่อยากชมวิวมุมสูงของกรุงเวียนนา โดยที่ไม่ต้องปีนบันไดขึ้นไปบนหอคอยของโบสถ์เซนต์สตีเฟ่น การขึ้นไปชมวิวบน Danube Tower นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ

Danube Tower ที่เที่ยวอันดับต้นๆ ของเวียนนา
by Toni Genes/ShutterStock

จากความสูงกว่า 150 เมตร คุณสามารถเห็นวิวของกรุงเวียนนาได้แบบ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังต่างๆ ย่านเมืองเก่า หรือว่าแม่น้ำดานูบ นอกจากนี้ยังมีบาร์ให้นั่งดื่มชมวิวอีกด้วยครับ ทั้งนี้ค่าตั๋วลิฟต์ขึ้นไปจะอยู่ที่ 16 ยูโรครับ

17. เที่ยวสวนสนุกพราเตอร์

สวนสนุกพราเตอร์ (Prater Amusement Park) เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา สัญลักษณ์ของสวนสนุกแห่งนี้คือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ความสูง 65 เมตร และมีอายุมากกว่า 125 ปี ซึ่งทำให้เป็นอีกหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองไปโดยปริยายครับ

by toxawww, standard license, depositphotos

นอกเหนือจากชิงช้าสวรรค์แล้ว ในตัวสวนสนุกก็ยังมีเครื่องเล่นอีกหลายอย่างด้วยกัน ทำให้เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจถ้าคุณเบื่อกับการชมวิวหรือว่าเยี่ยมชมพระราชวังแล้วครับ

สำหรับค่าเข้าของตัวสวนสนุกจะฟรีครับ แต่คุณจะต้องไปจ่ายค่าเครื่องเล่นที่คุณต้องการ ซึ่งจะเริ่มต้นที่ประมาณ 5 ยูโรครับ

18. ช้อปปิ้ง

เช่นเดียวกับเมืองใหญ่อื่นๆ ของโลก กรุงเวียนนานั้นมีย่านร้านค้ามากมายที่ให้คุณไปละลายเงินยูโร อาทิเช่น

  • Mariahilfer Strasse – ถนนความยาว 1.8 กิโลเมตรซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งอันดับ 1 ของกรุงเวียนนา ตลอดสองฝั่งของถนนนั้นมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย โดยจะมีทุกสไตล์และทุกระดับ ทำให้ที่นี่เหมาะต่อนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเลยครับ
  • Goldenes Quartier – ย่านช้อปปิ้งระดับ High-end ที่อยู่ในย่านเมืองเก่า ดังนั้นจะเต็มไปด้วย store ของแบรนด์เครื่องแต่งกายดังๆ ไม่ว่าจะเป็น Chanel, Louis Vuitton และอื่นๆ อีกมากมายครับ

19. ลองชิมอาหารออสเตรียน

เวียนนาเป็นเมืองที่ให้กำเนิดอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่างครัวซองต์ ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นี่เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมด้านอาหารที่แข็งแกร่งไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในยุโรป

Weiner Schnitzel by Brent Hofacker/ShutterStock

ดังนั้นถ้ามีโอกาส คุณควรที่จะลิ้มลองอาหารออสเตรียนในเมืองสักครั้ง โดยอาหารพื้นเมืองที่น่าสนใจได้แก่

  • Wiener Schnitzel
  • Goulash
  • Salonbeuschel
  • Tafelspitz

นอกจากนี้เวียนนายังมีชื่อเสียงมากในเรื่องของคาเฟ่ ดังนั้นถ้าใครชอบดื่มกาแฟควบคู่ไปกับขนมแสนอร่อย ผมแนะนำให้ลองไปคาเฟ่ที่ร้านริมแม่น้ำดานูบสักร้านดูครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความนี้มี Affiliate Links กล่าวคือผมจะได้รับส่วนแบ่งจากผู้ให้บริการ หากคุณจองตั๋วหรือบริการต่างๆ ผ่านลิงค์ในบทความครับ

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

สถานที่ท่องเที่ยวน่าไป

โรงแรมน่าจอง

error: Content is protected !!