หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวยุโรป6 ที่เที่ยวบาดกัสไตน์ (Bad Gastein) และกิจกรรมน่าสนใจที่ห้ามพลาด

6 ที่เที่ยวบาดกัสไตน์ (Bad Gastein) และกิจกรรมน่าสนใจที่ห้ามพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

บาดกัสไตน์ (Bad Gastein) เป็นหนึ่งในเมืองทั้งสามซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขากัสไตน์ (Gastein Valley) ของประเทศออสเตรีย ในเมืองมีบ้านสีพาสเทลเรียงรายกันไป และถูกโอบล้อมด้วยแนวเทือกเขาแอลป์ เมืองแห่งนี้จึงได้รับสมญาว่าเป็น Monte Carlo แห่งเทือกเขาแอลป์ครับ

ถ้าคุณอยากจะสัมผัสเมืองสวยๆ ที่ยังรักษาบรรยากาศเดิมๆ ไว้ได้ และยังไม่สลายไปจากกระแสการท่องเที่ยว (เหมือนอย่าง Hallstatt) และไม่ได้ไกลจากซาลซ์บูร์กมากนัก (ประมาณ 100 กิโลเมตร) เมืองแห่งนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ

รู้จักบาดกัสไตน์ (Bad Gastein)

บาดกัสไตน์ (Bad Gastein) เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในหุบเขากัสไตน์ (Gastein Valley) เคียงคู่กับเมืองอีกสองแห่งอย่าง Dorfgastein และ Bad Hofgastein ครับ

หลายคนอาจจะรู้สึกตะขิดตะขวงเรื่องชื่อของเมืองนี้อยู่บ้าง แต่จริงๆ คำว่า Bad นั้นแปลว่าสปาครับ ซึ่งถ้าแปลตรงๆ ก็คือสปาแห่งกัสไตน์นั่นแหละครับ

บาดกัสไตน์ (Bad Gastein) ในช่วงฤดูหนาว
by Tatiana Popova/ShutterStock

ความเป็นมาของเมืองนั้นย้อนไปได้ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 โดยเริ่มแรกอยู่ในการปกครองของอาณาจักรบาวาเรีย และได้ถูกขายให้กับรัฐซาลซ์บูร์กในเวลาต่อมา หลังจากนั้นตัวเมืองเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาในเรื่องเมืองสปาที่มีน้ำแร่บำรุงสุขภาพคุณภาพเยี่ยม ที่นี่จึงเป็นที่สถานที่พักผ่อนที่จักรพรรดิออสเตรียเสด็จมาหลายครั้งครับ

ในช่วงศตวรรษที่ 19 บาดกัสไตน์ได้กลายเป็นเมืองรีสอร์ทยอดนิยมในหมู่เชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงยุโรป เช่นเดียวกับนักดนตรี นักวิทยาศาสตร์อีกมากมาย มารี คูรี นักวิทยาศาสตร์หญิงชื่อดังได้เคยมาศึกษาน้ำแร่ของที่นี่ และพบว่ามี Radon เป็นองค์ประกอบครับ

หมู่บ้าน Bad Gastein
by trabantos/ShutterStock

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง บาดกัสไตน์ไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนกับในอดีต และสถานะเมืองท่องเที่ยวระดับท็อปก็ได้เสียไปให้กับเมืองอื่นๆ ความรุ่งโรจน์ในอดีตได้จางหายไปจากความทรงจำของนักท่องเที่ยว ซึ่งในทางกลับกันได้ทำให้เป็นสถานที่แบบ unseen และยังคงความบริสุทธิ์แบบดั้งเดิมได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปบาดกัสไตน์ (Bad Gastein) ทำอย่างไร?

คุณสามารถเดินทางไปบาดกัสไตน์ได้จากเมืองใหญ่ๆ ของออสเตรีย ไม่ว่าจะเป็นซาลซ์บูร์ก (ใกล้ที่สุด) หรือกราซ, อินส์บรุค หรือเวียนนาด้วยการใช้รถไฟ การจองและตรวจสอบรอบรถทำได้ด้วยการใช้ Omio ครับ

แต่ถ้าคุณอยากได้อิสระมากขึ้นไปอีก คงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากการเช่ารถขับครับ

หลังจากที่คุณมาถึงบาดกัสไตน์แล้ว ถ้าคุณอยากไปชมเมืองอื่นๆ ในหุบเขากัสไตน์ด้วย แน่นอนว่าคุณสามารถใช้บริการรถบัสสาธารณะซึ่งเชื่อมเมืองทั้งสามในหุบเขาครับ

1. Stubnerkogel

Stubnerkogel เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ปลายสุดทางตอนใต้ของหุบเขากัสไตน์ ซึ่งด้านบนภูเขาที่สูงกว่า 2,200 เมตรที่ให้คุณชมความสวยงามของแนวภูเขา Hohe Tauern โดยรอบได้อย่างงามยิ่งครับ การเดินทางขึ้นไปก็มีกระเช้าให้ใช้บริการดังนั้นง่ายดายและสะดวกสบายครับ

ไฮไลท์แรกของที่นี่คือสะพานแขวน Stubnerkogel Suspension Bridge ที่ยาวกว่า 140 เมตร และสูงจากเบื้องล่าง 28 เมตร วิวจากสะพานนั้นสวยแบบสุดจะพรรณนาเลยครับ แต่ก็ลมแรงมากเช่นกัน

by Mada_Cris/ShutterStock

ใกล้กับสถานีกระเช้ามีจุดชมวิวชื่อ Glocknerblick Viewing Platform ที่ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสนั้น คุณจะได้เห็น Grossglockner ภูเขาที่สูงที่สุดของออสเตรียครับ วิวจากตรงนี้สวยมากเพราะเป็นแบบพาโนรามาไม่มีอะไรมาขวางกั้นครับ

Glocknerblick Viewing Platform
by Decebal Matei/ShutterStock

อีกหนึ่งจุดชมวิวที่น่าสนใจคือ Felsenweg ทางเดินแคบที่สร้างขึ้นจากเหล็กกล้า และเหมาะกับใครที่อยากชมวิวแบบเสียวๆ ให้ร่างกายได้รู้สึกว่าได้ผจญภัยครับ

ถ้าคุณไปที่นี่ในช่วงฤดูหนาวนั้น Snowpark Gastein จะเปิดให้บริการ ซึ่งคุณสามารถเล่นกีฬาฤดูหนาวได้แบบ free style เลยครับ

2. Sportgastein

Sportgastein เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีทุกระดับให้เล่นตั้งแต่ Blue Slopes (มือใหม่) ไปจนถึง Black Slopes ที่สำหรับนักสกีมืออาชีพเท่านั้นครับ

Sportgastein
by Kofimage/ShutterStock

ไฮไลท์ของการเล่นสกีที่นี่คือ Freeriding หรือการเล่นสกีลงมาตามเนินที่สูงชัน ที่นี่จะมีสามเส้นทางให้เลือกระหว่าง Golden Powder, Golden Rush และ Golden Ride ในบรรดาทั้งสามเส้นนั้น Golden Powder จะโหดที่สุด และแน่นอนว่าไม่เหมาะสำหรับมือใหม่เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ครับ

นอกจากนี้ก่อนที่จะเริ่มเล่น คุณควรจะศึกษาและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันตรายจากหิมะถล่มครับ

อย่างไรก็ดีถ้าคุณไม่ได้มาในช่วงฤดูหนาวนั้น ที่นี่ก็จะกลายเป็นสถานที่เทรคกิ้งชั้นยอดที่มีหลายเส้นทางให้เลือกเดิน ซึ่งนักเดินทางมักจะหยุดพักตามกระท่อมเพื่อลิ้มลองอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยครับ

Sportgastein
by Lancan/ShutterStock

3. Gastein Thermal Baths

น้ำแร่ของบาดกัสไตน์นั้นมีชื่อเสียงเรื่องบำรุงสุขภาพมาอย่างช้านาน ดังนั้นถ้าคุณได้มาเที่ยวบาดกัสไตน์แล้ว การไปสปาและแช่น้ำแร่เป็นสิ่งที่คุณพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเจ็บโน่นเจ็บนี่แบบเรื้อรังครับ

การใช้บริการสปานั้นคุณอาจจะใช้บริการที่โรงแรมของคุณก็ได้ หรือว่าไปที่สถานที่ชั้นนำอย่าง Felsentherme และ Alpentherme ครับ

นอกจากน้ำแร่แล้ว ที่นี่ยังมีชื่อเสียงเรื่องการทำทรีตเมนต์อย่าง Radon Therapy ด้วยที่ว่ากันว่าช่วยเรื่องปวดไขข้อ ซึ่งถ้าสนใจลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Gastein Healing Gallery ทว่าประสิทธิผลของการทำทรีตเมนต์ที่ว่ายังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ แม้ว่าจะมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะช่วยทำให้อาการดีขึ้นบ้างก็ตาม

4. เดินเทรคไปชมทะเลสาบต่างๆ

บริเวณหุบเขากัสไตน์นั้นมีทะเลสาบที่สวยงามอยู่หลายแห่ง ซึ่งความสวยนั้นไม่ได้ด้อยกว่าที่โกเซาหรือซังค์โวล์ฟกัง ทว่าคุณจะต้องเดินเทรคหรือปีนเขาขึ้นไป น้ำของทะเลสาบแต่ละแห่งนั้นบริสุทธิ์มากจนถึงขนาดที่อาจจะดื่มได้เลยครับ

ทะเลสาบที่น่าสนใจแห่งแรกคือ Reedsee ที่ถูกห้อมล้อมด้วยผืนป่าอันเขียวชอุ่ม ในวันฟ้าใสนั้นน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นกระจกให้ทุกสิ่งสะท้อนลงไปได้อย่างงามยิ่ง

by On SET/ShutterStock

อีกสองแห่งที่น่าสนใจคือ Paarseen และ Palfnersee ครับ แต่ทั้งสามแห่งนั้นต้องใช้เวลาเดินไปกลับหลายชั่วโมง ดังนั้นเหมาะกับใครที่สุขภาพร่างกายพร้อมเท่านั้นครับ

Paarseen
by Yuriy Brykaylo/ShutterStock

5. Schlossalm

Schlossalm เป็นอีกหนึ่งสถานที่ใกล้กับบาดกัสไตน์ที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ในช่วงฤดูหนาวนั้นไม่มีอะไรแปลกใจ เพราะที่นี่จะเป็นลานสกีชั้นยอด โดยเป็นส่วนหนึ่งของลานสกีขนาดใหญ่ Schlossalm-Angertal-Stubnerkogel ครับ

Schlossalm
by Vibeckemarkhus.visit/ShutterStock

ส่วนในช่วงฤดูอื่นๆ ที่ไม่มีหิมะนั้น ที่นี่จะเป็นแดนสวรรค์ของสายปีนเขา เพราะมีภูเขาหินมากมายให้ปีน โดยเลือกระดับความยากได้ เช่นเดียวกับกิจกรรมสาย adventure อื่นๆ อีกจำนวนมาก อย่างเช่นไต่สะพานเชือกเป็นต้น รับรองว่าใครเป็นสายลุยยากที่จะเบื่อเลยครับ

แต่ถ้าใครอยากได้กิจกรรมที่ตื่นเต้นน้อยลง อาจจะเปลี่ยนเป็นเดินเทรครอบทะเลสาบ Schlossalmsee ก็ได้ครับ

Schlossalmsee
by Radomir Rezny/ShutterStock

6. Wasserfall

Wasserfall เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านใจกลางเมืองบาดกัสไตน์ โดยไหลบ่าลงมากว่า 3 ชั้น รวมแล้วเป็นระยะทางกว่า 341 เมตร ทั้งนี้บริเวณเส้นทางน้ำไหลนั้นจะมีทางเดินอย่างดี ซึ่งให้คุณเดินย้อนกลับไปชมบริเวณต้นน้ำได้ครับ โดยรวมแล้วสวยงามมากทีเดียว

Wasserfall
by Horius/ShutterStock

References

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

สถานที่ท่องเที่ยวน่าไป

โรงแรมน่าจอง

error: Content is protected !!